ประโยชน์มหาศาลจากการรักษาโดยใช้เกร็ดเลือดเข้มข้น หรือ PRP

การใช้เกร็ดเลือดเข้มข้นจากตัวเองมีงานวิจัยเยอะมากว่าได้ประโยชน์มารักษา ช่วยฟื้นฟูความเยาว์วัยทั่วร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยระบบย่อยอาหาร บำรุงตับม้ามไตหัวใจ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชายหญิง สร้างหลอดเลือดใหม่เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพเพศชายช่วยรักษาอาการข้อเสื่อม รักษาออฟฟิตซินโดรม ปลูกผม
หลักการข้อดีที่ได้จากการปั่นเกร็ดเลือดเข้มข้น หรือ Platelet Rich Plasma PRP ซึ่งจากการเตรียมด้วยเครื่องปั่นมาตรฐานสูงจะได้สารที่ไปกระตุ้นให้เกิด Growth factor กระตุ้นการซ่อมแซมส่วนต่างๆสูงกว่าปกติถึง 6-7 เท่า ได้แก่ TGF-B , BFGF , PDGFa-b , EGF , VEGF , IGF , CTGF ช่วยในการสร้างหลอดเลือดใหม่ สร้างคอลลาเจน ไฟโบรบลาส ลดการอักเสบจากเม็ดเลือดขาว สร้างเซลล์กระดูกและน้ำหล่อเลี้ยงข้อ สร้างการฟื้นฟูของแผลเพื่อให้เกิดการเรียงตัวใหม่ที่ดีขึ้น
ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ PRP
1 หยุดยาแก้อักเสบ เช่น กลุ่มNSAIDs Ibuprofen naproxen celebrex ก่อน 5 วัน
2 หยุดยากลุ่มละลายลิ่มเลือด เช่น Aspirin Plavix Coumadin ก่อน 7 วัน
3 หยุดยาที่มีผลกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนโลหิตมากขึ้น เช่น VitaminC E pycnogenol garlic
4 หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนัก เช่น เนื้อสัตว์ อาหารมัน ก่อน 2 ชั่วโมง
การปฏิบัติตัวหลังทำ PRP
1 อาจมีรู้สึกระคายเคืองบริเวณที่ทำแรกๆ 3 - 5 วัน สามารถใช้น้ำแข็งประคบได้ 3 - 4ครั้งต่อวัน นาน15 นาที
2 หากมีอาการไข้ บวมแดง ตรงบริเวณที่ฉีดให้ปรึกษาแพทย์โดยตรง
3 หากฉีดบริเวณข้อ ไม่แนะนำให้ขับรถกลับบ้านเอง
4 สามารถกลับมารับประทานยากลุ่มละลายลิ่มเลือดเช่น Aspirin Plavix Coumadinได้ตามปกติ หลังทำ 24 ชั่วโมง
5 หลีกเลี่ยงยากลุ่มแก้อักเสบ กลุ่มNSAIDs Ibuprofen naproxen celebrexต่ออีกจนครบ 6 อาทิตย์
6 หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือ ยกของหนัก ใน7วันแรก
ไม่ใช่ทุกคนที่จำได้รับการรักษาวิธีนี้ได้ การทำPRP มีข้อห้ามในคน
1 มีการติดเชื้ออยู่
2 เป็นมะเร็งระยะลุกลาม
3 มีโรคเลือดไหลผิดปกติ
4 หยุดยาสลายลิ่มเลือดไม่ได้
5 โรคเลือดจาง
6 ตั้งครรภ์
นอกจากนี้PRPจะได้ผลน้อยลงในคนที่ ไม่ได้เตรียมตัวมาดี รับประทานเนื้อสัตว์และอาหารมันมาเยอะ มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทุพโภชนาการ